วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560

ประเภทช็อกโกแลต


ช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มความหวาน (unsweetened chocolate)
คือ ช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์หรือที่รู้จักกันในนาม ช็อกโกแลตฝาด ใช้ในการอบอาหาร และเป็นช็อกโกแลตที่ไม่มีการเจือปนใด ๆ ทั้งสิ้น ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีรสชาติเข้มข้มและ ลุ่มลึกของช็อกโกแลตบริสุทธิ์ แต่อย่างไรก็ดีเมื่อมีการเพิ่มน้ำตาลเข้าไป ช็อกโกแลตชนิดนี้จะใช้เป็นส่วนผสมหลักในการทำบราวนี เค้ก ลูกกวาด และคุกกี้



ช็อกโกแลตดำ (dark chocolate)
คือช็อกโกแลตที่ไม่ได้เพิ่มนมเป็นส่วนประกอบ ซึ่งบางครั้งก็ถูกเรียกเป็ช็อกโกแลตธรรมดา แต่ว่าทางรัฐบาลสหรัฐฯ เรียกเป็นช็อกโกแลตหวาน และกำหนดให้มีส่วนผสมของช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์เข้มข้น 15% แต่ทางยุโรปได้กำหนดให้มีส่วนผสมของเมล็ดโกโก้อย่างน้อย 35% ช็อกโกแลตดำมีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารแอนติออกซิแดนท์ป้องกันมิให้เกิดคราบไขมันสะสมที่ผนังหลอดเลือดหัวใจ สาเหตุของโรคหัวใจเลือดตีบ และช่วยป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดแข็งตัว สาเหตุของการอุดตันในหลอดเลือด และป้องกันความดันโลหิตสูง


ช็อกโกแลตนม (milk chocolate)
คือช็อกโกแลตที่ผสมนมหรือนมข้นหวาน รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดว่าหากจะเรียกว่าช็อกโกแลตนมต้องมีส่วนผสมของช็อกโกแลตเหลวบริสุทธิ์เข้มข้น 10% แต่ทางยุโรปได้กำหนดให้มีส่วนผสมของเมล็ดโกโก้อย่างน้อย 25% ช็อกโกแลตชนิดนี้มีส่วนผสมของเนยโกโก้ (cocoa butter) นม และยังเพิ่มความหวานและรสชาติลงไปด้วย ช็อกโกแลตนมนี้ใช้สำหรับแต่งหน้าขนมได้เป็นอย่างดี ช็อกโกแลตนมที่ทำในประเทศสหรัฐฯ ต้องประกอบด้วยน้ำช็อกโกแลตอย่างน้อย 10% และนมที่ไม่ได้เอามันเนยออก 12%



Chocolate Liquor
คือผลผลิตจากเมล็ดโกโก้นำมาบดละเอียด แล้วนำมาคั้นเอาแต่น้ำ น้ำช็อกโกแลตนี้สามารถทำให้เย็นและทำให้แข็งตัวโดยใส่พิมพ์ไว้ แต่ช็อกโกแลตที่ได้เป็นชนิดที่ไม่หวาน น้ำช็อกโกแลตนี้จะมีส่วนผสมของโกโก้บัตเตอร์ประมาณ 53%


ช็อกโกแลตกึ่งหวาน (semi-sweet)
คือ อยู่ในรูปของเหลวแล้วเพิ่มความหวานและใส่เนยโกโก้ลงไปด้วย สีของช็อกโกแลตชนิดนี้สีจะเข้ม ตามมาตรฐานของสหรัฐฯ จะมีส่วนผสมของน้ำช็อกโกแลตประมาณ 35% และมีไขมันประมาณ 27% ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีรสชาติความหวานเล็ก

ช็อกโกแลตหวาน (sweet chocolate)
ช็อกโกแลตชนิดนี้จะเพิ่มความหวานลงไปมากกว่าช็อกโกแลตแบบหวานน้อย และมีส่วนผสมของน้ำช็อกโกแลตอย่างน้อย 15 % ช็อกโกแลตชนิดนี้ใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำขนมและตกแต่งขนม และยังมีไขมันเท่า ๆ กับช็อกโกแลตแบบหวานน้อย

ช็อกโกแลตขาว (white chocolate)
ชนิดนี้มีส่วนผสมของเนยโกโก้ แต่ไม่มีโกโก้ที่อยู่ในรูปของไขมัน แต่จะประกอบไปด้วยน้ำตาล เนยโกโก้ นมสด และใส่กลิ่นวานิลลาลงไปด้วย ช็อกโกแลตขาวนี้จะแตกหักง่าย หากเป็นของปลอมจะทำมาจากน้ำมันพืชมากกว่าเนยโกโก

Liquid Chocolate
เป็นช็อกโกแลตที่ไม่หวาน ส่วนใหญ่จะบรรจุขายเป็นขวด ขวดละ 1 ออนซ์ และเนื่องจากมันไม่ละลายจึงสะดวกในการใช้มาก โดยพัฒนาขึ้นมาสำหรับใช้ทำขนมอบ อย่างไรก็ดีเนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำมันพืชมากกว่าเนยโกโก้ ซึ่งเนื้อช็อกโกแลตจะแตกต่างกัน ปกติแล้วช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีรสไม่หวาน

ช็อกโกแลตชนิดกูแวร์ตูร์ (couverture)
เป็นชนิดที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวคือจะเป็นมันเงา โดยปกติจะมีส่วนผสมของเนยโกโก้อย่างน้อยที่สุด 32% ทำให้มันสามารถคงตัวอยู่ในรูปของไขได้ดีกว่าชนิดเคลือบ ปกติแล้วจะใช้เฉพาะในร้านที่ทำขนมหวานเท่านั้น ส่วนใหญ่จะพบอยู่ในรูปของส่วนที่เคลือบอยู่ภายนอกผลไม้หรือหุ้มไส้ช็อกโกแลตอยู่ มีรสเผ็ด

Ganache
ช็อกโกแลตชนิดนี้จะมีลักษณะข้นมาก เป็นที่นิยมนำไปทำเค้กช็อกโกแลต Ganache ทำโดยการเทวิปปิงครีมที่นำไปอุ่นลงไปในชอคโกแลตสับในปริมาณที่เท่ากัน ทิ้งไว้สักครู่จนชอคโกแลตเริ่มละลายและคนให้เข้ากัน จะได้ส่วนผสมที่ข้นขึ้น อาจเติมเนยในปริมาณเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความเงาให้กับกานาชด้วย

Confectionery Coating
เป็นช็อกโกแลตที่ใช้เคลือบลูกกวาด โดยนำไปผสมกับน้ำตาล นมผง น้ำมันพืช และสารปรุงแต่งรสชาติต่างๆ มีสีสันหลากหลาย ลูกกวาดที่ได้นี้ผงโกโก้จะมีไขมันต่ำ แต่จะไม่มีส่วนผสมของเนยโกโก้ เหมือนชนิดอื่น ๆ จึงแยกออกมาเป็นอีกประเภทหนึ่งได้

ต้นช็อกโกแลต(ต้นโกโก้)

การปลูกต้นโกโก้

โกโก้  ลักษณะทางธรรมชาติ เป็นไม้ยืนต้นทรงพุ่มขนาดใหญ่  อายุยืนนับร้อยปี  กำเนิดในป่าชื้นเขตอเมริกาใต้ (บราซิล.  แม็กซิโก.  โคลัมเบีย. ให้ผลผลิตตลอดปีแบบไม่มีฤดูกาล เจริญเติบโตได้ดีในเขตภาคใต้ของประเทศไทย ชอบแสงแดดรำไรหรือมีร่มเงาบ้าง ฝนชุก ต้องการไม้พี่เลี้ยงตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึงตลอดไป  การปลูกโกโก้แซมแทรกในสวนมะพร้าวโดยมีมะพร้าว (อายุต้นมากกว่า 10 ปี) ช่วยบังแดด และมีกล้วยแซมแทรกบ้างเพื่อสร้างความชื้นในดินและความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศจะช่วยให้ต้นโกโก้เจริญเติบโตดี  บ้านอะลาง
อายุต้นหลังปลูก 3 ปี  เริ่มให้ผลผลิตและให้ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 50 ปี ออกดอกติดผลตามลำต้นและใต้ท้องกิ่งแก่  ทุก 2-3 สัปดาห์ อายุผลตั้งแต่ออกดอก ถึง เก็บเกี่ยว 5-6 เดือนเกสรตัวผู้หรือเกสรตัวเมียอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างไม่สมบูรณ์เกิดจากขาดสารอาหาร/ฮอร์โมน หรือสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม (อากาศร้อนหรือฝนตกชุก) ผสมกันแล้วพัฒนาเป็นผลจะเป็นผลไม่สมบูรณ์ ไม่โต รูปทรงบิดเบี้ยวผลอ่อนมีสีเขียว  ผลแก่มีสีเหลืองอมส้ม  ผลแก่จัดสีเหลืองอมแสด
การเก็บเกี่ยว  ให้เลือกเก็บเฉพาะผลที่แก่สุกพอเหมาะ ไม่อ่อนไม่แก่เกินไป เปลือกผลสีเหลือง  วิธีเก็บเกี่ยวให้ใช้กรรไกคมๆตัดขั้วผล หลังจากเก็บเกี่ยวผลชุดแรกไปแล้ว อีก 2-3 สัปดาห์โกโก้จะออกดอก ณ บริเวณใกล้เคียงอีก ถ้าใช้วิธีดึงผลจนเปลือกฉีกเป็นแผลบริเวณนั้นจะไม่ออกดอกหรือต้องใช้ระยะเวลานาน                หมายเหตุ : ธรรมชาติของโกโก้ออกดอกติดผลตลอดปีแบบไม่มีรุ่นอาจไม่จำเป็นต้องบำรุงตามขั้นตอน หากต้นมีความสมบูรณ์อยู่เสมอจะออกดอกติดผลเอง…..การปลูกโกโก้แซมแทรกในสวนมะพร้าวซึ่งพืชทั้งสองชนิดนี้มีธรรมชาติ การออกดอกติดผลเหมือนกันจึงใช้วิธีบำรุงร่วมกันได้หากต้องการผลผลิตเป็นรุ่นเดียวกันทั้งต้นทั้งแปลง เพื่อให้ได้ปริมาณผลผลิตมาก และคุณภาพดีตามที่ตลาดต้องการก็จำเป็นต้องปฏิบัติบำรุงตามขั้นตอนเช่นเดียวกันกับไม้ผลทั่วๆไป
สายพันธุ์
1. เวสแอฟริกัน อมิโลนาโด :เป็นพันธุ์นิยมปลูกมากที่สุดเพราะผสมเกสรในตัวเองได้ดี  และคุณภาพเมล็ดเป็นที่ต้องการของตลาด
2. ครีโอโล : ป็นพันธุ์ผลค่อนข้างใหญ่  กลิ่นจัด  เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมโกโก้
3. อั๊พเปอร์ อเมซอน : เป็นพันธุ์ให้ผลผลิตสูงและเร็วกว่าพันธุ์อื่นๆ
4. ทรินิ ตาริโอ : เป็นพันธุ์ต้านทานโรคดีที่สุดแต่ให้ผลผลิตต่ำ
การขยายพันธุ์   เพาะเมล็ดโดยการเลือกเมล็ดจากผลแก่จัดคาต้น สมบูรณ์  คุณภาพดี  ไม่มีโรคและแมลง  ต้นแม่ให้ผลผลิตดกดี  ออกดอกติดผลประจำทุกปี  อยู่ในดงหรือสวนโกโก้ขนาดใหญ่เมล็ดไม่มีระยะพักตัว  เมื่อได้มาจากต้นแล้วขยำเนื้อและเปลือกเหลือแต่เมล็ดใน  ผึ่งลมแห้งแล้วนำลงเพาะในวัสดุเพาะทั่วไปได้ทันทีโดยให้ส่วนตายอดอยู่ด้านบนและตารากอยู่ด้านล่างเสมอทั้งนี้จะวางเมล็ดแบบแบนราบหรือตั้งขึ้นก็ได้  ภายใน 7 วัน รากจะงอกถ้าไม่งอกแสดงว่าเมล็ดนั้นใช้การไม่ได้ บ้านอะลาง     
ระยะปลูก เลือกพื้นที่ปลูกแซมแทรกในสวนมะพร้าวจึงให้พิจารณาตามความเหมาะสม  3 X 3 ม. หรือ  3 X 2.5 ม. กรณีปลูกแซมแทรกในสวนมะพร้าว  ให้ห่างจากต้นมะพร้าว  3-4 ม. อยู่ด้านร่มเงาของมะพร้าว
เตรียมดินและอินทรีย์วัตถุ               
– ใส่ปุ๋ยคอก (มูลวัวเนื้อ/นม + มูลไก่ไข่/เนื้อ/นกกระทา (แห้งเก่าข้ามปี) ปีละ 2 ครั้ง     – ให้ยิบซั่มธรรมชาติ  ปีละ 2 ครั้ง
– ให้กระดูกป่น  ปีละ 1 ครั้ง
– คลุมโคนต้นด้วยเศษพืชแห้งหนาๆเต็มพื้นที่บริเวณทรงพุ่มล้ำออกไปถึงนอกเขตทรงพุ่ม
– ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิงหรือจุลินทรีย์ 1-2 เดือน/ครั้ง
– ให้มูลค้างคาว 1-2 กำมือ/ต้น/3 เดือน
หมายเหตุ :         – การฝังซากสัตว์ เช่น หอยเชอรี่  ปลาสด  เป็นชิ้นเท่าลูกมะนาวหรือบดละเอียด ที่ชายเขตทรงพุ่ม 4-5   หลุม/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม. ฝังปีเว้นปี เพื่อให้ต้นมีสารอาหารกินตลอด 24 ชม. ต่อเนื่องหลายๆปีจะทำให้    ต้นมีความสมบูรณ์สูงพร้อมต่อการบำรุงทุกขั้นตอน                 – ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพ (ทางใบ-ทางราก) บ่อยเกินไปจะทำให้ต้นหยุดการเจริญเติบโต ไม่แตกใบอ่อน ผลหยุดขยายขนาดแล้วกลายเป็นผลแก่   การให้ทางใบอาจเป็นแหล่งอาศัยและแพร่ระบาดของเชื้อราได้                – ให้กลูโคสหรือนมสัตว์สดเฉพาะช่วงสำคัญ เช่น เร่งใบอ่อนเป็นใบแก่  สะสมอาหาร  บำรุงผลกลาง       ช่วงละ 1-2 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 20-30 วัน…..ถ้าให้บ่อยเกินไปจะทำให้ต้นเกิดอาการนิ่ง ไม่ตอบสนอง       ต่อสารอาหารหรือฮอร์โมนใดๆทั้งสิ้น
– ฮอร์โมนธรรมชาติและฮอร์โมนวิทยาศาสตร์จะให้ประสิทธิภาพเต็มร้อยก็ต่อเมื่อ ต้นมีสภาพความ      สมบูรณ์สูง
เตรียมต้น   ตัดแต่งกิ่ง : ปกติโกโก้ที่ปลูกจากเมล็ดจะเจริญเติบโตทางสูงเป็นลำต้นเดี่ยวๆโดยอายุต้น 1 ปี-1 ปีครึ่งหลังปลูกจะสูงประมาณ 1.5-2 ม.  จากนั้นจะหยุดการเจริญเติบโตทางสูงแล้วเจริญเติบโตทางข้าง  มีกิ่งแขนงแตกออกทางข้าง 4-5 กิ่งเรียกว่า เรือนยอด จากนั้นก็จะแตกกิ่งกระโดงจากตาของกิ่งเรือนยอดเป็นกิ่งกระโดง เรียกว่า ชูพอน เมื่อชูพอนโตขึ้นก็จะสร้างเรือนยอดขึ้นมาอีก และตาของกิ่งเรือนยอดก็จะแตกกิ่งกระโดงออกมาอีก  เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนต้นมีขนาดทรงพุ่มสูงและใหญ่
-โกโก้ต้นที่ให้ผลผลิตแล้วให้ตัดแต่งกิ่งโดยตัดกิ่งแห้ง  กิ่งเป็นโรค  กิ่งชี้เข้าในทรงพุ่ม กิ่งไขว้  เพื่อให้ภายในทรงพุ่มโปร่ง  แสงแดดและลมพัดผ่านสะดวก  ต้นที่ความสูงน้อยกว่า 1.5ม. ให้เลี้ยงกิ่งกระโดงที่เกิดใหม่ไว้ก่อน เพื่อให้สร้างเรือนยอดสำหรับเพิ่มความสูงให้แก่ต้น
-ต้นที่สมบูรณ์มากๆจะมีหน่อแทงออกมาจากโคนลำต้นเหนือผิวดินเล็กน้อย ถ้าต้นมีความสูงพอเพียงแล้วให้ตัดหน่อทิ้งไปทั้งหมดตั้งแต่เริ่มแทงออกมาโดยตัดให้ชิดเปลือกลำต้น แต่ถ้าต้นยังได้ความสูงไม่พอเพียงก็ให้คงหน่อที่แข็งแรงไว้ 1-2 หน่อ เพื่อให้เป็นลำต้นใหม่แล้วสร้างเรือนยอดต่อไป
– หลังจากตัดยอดประธานเพื่อควบคุมความสูงหรือยอดประธานหักเองจะมีหน่อเกิดใหม่ที่ใต้รอยตัดนั้นให้บำรุงหน่อใหม่จนเป็นต้นสำหรับทดแทนได้
– การตัดแต่งกิ่งโกโก้ต้องทำทุก 1-2 เดือนเพื่อให้ทรงพุ่มโปร่งอยู่เสมอซึ่งจะส่งผลดีต่อการออกดอกติดผล
ตัดแต่งราก :  โกโก้ช่วงต้นอายุยังน้อยไม่ควรตัดแต่งรากแต่ถ้าต้องการสร้างรากใหม่ให้มีประสิทธิภาพในการหาอาหารดียิ่งขึ้นใช้วิธีล่อรากด้วยการพูนโคนต้นด้วยดิน 3 ส่วนกับอินทรีย์วัตถุ 1 ส่วน ต้นอายุหลายปี  ระบบรากเก่าและแก่มาก  ให้พิจารณาตัดแต่งรากส่วนปลายออก 1 ใน 4 ด้วยการพรวนดินรอบทรงพุ่มลึก 10-15 ซม. หลังจากให้ฮอร์โมนบำรุงรากไปแล้วต้นจะแตกรากใหม่จำนวนมากขึ้น  และมีประสิทธิภาพในการดูดซับสารอาหารได้ดีกว่าเดิม  ขั้นตอนการปฏิบัติบำรุงต่อโกโก้
หลักการและเหตุผล :    
1.โกโก้ต้องปลูกแบบแซมแทรกระหว่างมะพร้าวเพื่ออาศัยมะพร้าวเป็นไม้พี่เลี้ยงตลอดชีวิตโกโก้จึงจะให้ผลผลิตดี  ระยะห่างระหว่างต้นมะพร้าวกับมะพร้าว หรือโกโก้กับโกโก้  หรือมะพร้าวกับโกโก้  จึงเอาแน่นอนไม่ได้
2.โกโก้กับมะพร้าวมีนิสัยออกดอกติดผลตลอดปีแบบไม่มีรุ่น ตราบเท่าที่ต้นสมบูรณ์เหมือนกันต่างกันก็แต่อายุของผลผลิตเท่านั้น  จากหลักการและเหตุผลทางธรรมชาติของไม้ผลทั้งสองที่ต้องอยู่ร่วมกันนี้ แนวทางการปฏิบัติบำรุงให้ใช้วิธีการเดียวกันเป็นหลัก  จากนั้นจึงเลือกให้สารอาหารบางอย่างสำหรับมะพร้าวหรือโกโก้โดยเฉพาะเสริมด้วยการให้ทางใบหรือทางรากโดยตรง
1.ระยะกล้า – ยังไม่ให้ผลผลิต                
ทางใบ : 

– ให้น้ำ 100 ล.+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. โดย
-การฉีดพ่นให้เปียกโชกทั้งใต้ใบบนใบลงถึงพื้น  ทุก 15-20 วัน
– ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน             
ทางราก :

– ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 25-7-7(200-500 กรัม)/เดือน/ต้น/เดือน     – ให้น้ำเปล่าปกติ  ทุก 2-3 วัน
หมายเหตุ :  เริ่มให้ปุ๋ยทั้งทางใบและทางรากหลังจากต้นแตกใบใหม่ได้แล้ว 2-3 ใบ  โดยช่วง  ระยะต้นเล็กให้แต่น้ำเปล่าก็พอ
2.ระยะต้นโตให้ผลผลิตแล้ว  
ทางใบ : ในรอบ 15-20 วัน ให้น้ำ 100 ล.+ 0-42-56(200 กรัม)+ ธาตุรอง/ธาตุเสริม100 ซีซี.+ แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี. 1 ครั้งกับให้น้ำ100 ล. + ฮอร์โมนไข่ 100ซีซี.+ เอ็นเอเอ 25 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.อีก 1ครั้ง ฉีดพ่นทางใบพอเปียกใบ ฉีดพ่นสารสกัดสมุนไพร  ทุก 2-3 วัน
ทางราก :             ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 8-24-24 (1-1/2 กก.)/เดือน/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม./เดือน ให้น้ำเปล่าปกติ  ทุก 2-3 วัน
หมายเหตุ :  ระยะต้นโตให้ผลผลิตแล้วถ้าขาดน้ำจะทำให้ต้นชะงักไม่ออกดอกและผลทั้งใน ฤดูกาลปีนี้และฤดูกาลเดียวกันของปีต่อไป
3.บำรุง  “ดอก + ผล”  หลายรุ่น  
ทางใบ :
สูตร 1…..ให้น้ำ 100 ล. + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. + ฮอร์โมนสมส่วน 100 ซีซี.+ เอ็นเอเอ. 25 ซีซี.+ ฮอร์โมนไข่ 100 ซีซี.+ แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.
สูตร 2…..ให้น้ำ 100 ล. + 0-42-56(200-250 กรัม) + ธาตุรอง/ธาตุเสริม 100 ซีซี. + ฮอร์โมนไข่ 50 ซีซี. + เอ็นเอเอ.25 ซีซี. + แคลเซียม โบรอน 100 ซีซี.+ ไคโตซาน 100 ซีซี.+ สารสกัดสมุนไพร 250 ซีซี.เลือกใช้สูตรใดสูตรหนึ่งหรือใช้ทั้งสองสูตรสลับครั้งกัน ฉีดพ่นพอเปียกใบทุก 15-20 วัน       ทางราก :
– ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง + 8-24-24 (200-250 กรัม)/เดือน/ต้น
– ให้น้ำเปล่าทุก 2-3 วัน
– ช่วงก่อนเข้าหน้าหนาว (ฝนต่อหนาว) และช่วงหน้าแล้งต้องให้น้ำทุกวันหรือวันเว้นวันจะ        ช่วยให้หน้าแล้งปีถัดไปผลโกโก้จะไม่ขาดต้น